3 ทักษะงานแห่งโลกอนาคตที่ต้องมี เพื่อต่อสู้กับยุคที่หุ่นยนต์ AI จะเข้ามาแย่งงาน

Nanosoft Article : บทความทางธุรกิจ



กระแสหุ่นยนต์จะเข้ามาแย่งงานไม่ใช่เรื่องใหม่ บริษัทที่ปรึกษาอย่าง McKinsey บอกไว้นานแล้วว่า ในปี 2030 หุ่นยนต์จะทำให้คนไทยตกงานประมาณ 6 ล้านคน ส่วนในระดับโลกคาดว่าจะตกงานถึง 800 ล้านคน

แน่นอนว่า ข้อมูลด้านบนนี้ อาจมีข้อถกเถียงได้ว่า แม้หุ่นยนต์เข้ามา คนจะตกงาน แต่ในอีกด้านหนึ่ง การที่หุ่นยนต์เข้ามา ก็สร้างรูปแบบงานใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน



ทักษะที่ 1 คือ ทักษะดิจิทัล (Digital skills)

ทักษะดิจิทัลไม่ได้หมายถึงการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี หรืออินเทอร์เน็ตเท่านั้น เพราะทักษะดิจิทัลมีมิติที่ลุ่มลึก เช่น การเข้าใจและรู้เท่าทันถึงความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี โซเชียลมีเดีย และอินเทอร์เน็ต หรือถ้ามองในภาพของบริษัท ทักษะดิจิทัลก็หมายถึงการใช้ดิจิทัลเพื่อมาปรับเปลี่ยนโครงสร้างขององค์กรด้วย

ทักษะที่ 2 คือ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ (Analytical abilities)

ทักษะในการคิดและวิเคราะห์จะยิ่งทวีคูณความสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่หุ่นยนต์สามารถทำงานอัตโนมัติแทนแรงงานมนุษย์ได้อย่าง(เกือบ)สมบูรณ์ เหตุผลเพราะความสามารถในการคิดวิเคราะห์เรียกร้องความสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาสูงมาก หุ่นยนต์ยังทำไม่ได้(อย่างน้อยก็ในอนาคตอันใกล้) แรงงานมนุษย์ยังทำได้ดีกว่า ดังนั้นจึงต้องปรับตัวและเพิ่มพูนทักษะในส่วนนี้

ทักษะที่ 3 คือ ความสามารถในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (Continuous learning capabilities)

หลายคนอาจเรียกทักษะนี้ว่า “ความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต” เพราะในโลกยุคใหม่ความรู้ไม่ได้อยู่ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือในห้องสมุด แต่ความรู้อยู่ทั่วไปหมดทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ และที่สำคัญความรู้ในยุคนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก การรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอย่างดี ในอีก 5 ปีข้างหน้าอาจสำคัญน้อยลงหรือไม่สำคัญในตลาดแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นทักษะในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จึงสำคัญและจำเป็นมาก

สำคัญ: จงพาตนเองไปรายล้อมกับเพื่อนพนักงานที่อยากเพิ่มพูนทักษะอยู่เสมอ

Kevin Wo กรรมการผู้จัดการของ Microsoft ในสิงคโปร์ บอกว่า ทักษะ 3 ข้อที่เสนอในรายงาน เน้นไปที่เจ้านายมากกว่าลูกน้อง เพราะเจ้านายเป็นส่วนสำคัญในการวางทิศทางขับเคลื่อนองค์กร

แหล่งที่มา : https://brandinside.asia/3-skills-for-tomorrow/